เตี่ยเล่าว่า ตอนเด็กๆเตี่ยเรียนที่โรงเรียนเล้าไก่ ก็โรงเรียนดงหัวโขดปัจจุบันนี้แหละอยู่ไม่ไกลจากบ้านอาโกหมวยนัก เรียนถึงป.4 จบมาก็ช่วยก๋งทำไร่ แต่ก่อนนี้ทำไร่มัน ตอนหลังมาทำสวน แล้วก็เลี้ยงวัว ตอนหลังแกเลิกทำสวนไปเป็นเด็กรถบัส ของ ส.ประดิษฐ์ วิ่งสายปราจีน-นครนายก วิ่งไปวิ่งมา ส.ประดิษฐ์ ก็วิ่งทับเส้นเอาไม้กวาดจากบ้านโง้ง ไปกรุงเทพ ลงแถววงเวียน 22 สมัยนั้นได้เบี้ยเลี้ยงวันล่ะ 10 บาท คนขับรถได้วันล่ะ 15 บาทข้าวแกงจานล่ะ 50 สตางค์ กว่าจะวิ่งไปถึงกรุงเทพได้เด็กรถตีกะเจ้าถิ่นทุกวัน ตลอดทาง ก็วิ่งทับเส้นทางเดินรถของเขานี่นา ตอนหลังๆส.ประดิษฐ์ ก็ต้องจ้างนักเลงคุมรถไปด้วย ก็เอาไปตีกับพวกนั้นนะแหละ ตอนนั้นเตี่ยยังเด็กไม่ได้ไปตีอะไรกับเขาหรอก ตอนหลังมา ก๋ง เห็นว่าเตี่ยชอบเรื่องรถก็เลยส่งเตี่ยไปเรียนเครื่องยนต์ที่ ส.สะพานมอญ แถวเจริญกรุง ซอยบ้านหม้อ ปัจจุบันน่าจะเป็นเบนซ์ทองหล่อ ( มันเกี่ยวกันหรือวุ้ย เอาตามที่แกเล่าก็แล้วกันไอ้เราก็ไม่เคยเข้ากรุงเทพสะด้วย ) พอจบมาแกมาอยู่โรงกลึง นายละออ ที่ปราจีน อยู่ในเมืองซอย 3 ตอนนั้น เจกโฮ้ทำอยู่ก่อนแล้ว ออกจากโรงกลึงแกก็มาอยู่กับ เหล่ายี่ (ลูกชายตั่วแปะ) แถวสี่แยกพานนก เป็นร้านขายยาจีน แกบอกว่าทุกวันนี้น่าจะเป็นแถวสี่แยกโรงพยาบาลศิริราช อาเจกโฮ้ กับ อาเจกเปี๊ยก ก็เคยไปอยู่ด้วย ตอนหลังอาเจกโฮ้แกอยู่หลายปีจนเงินได้เป็นพัน พอออกจากเหล่ายี่แกก็กลับมาอยู่ปราจีน อยู่มาวันนึง ซี้แปะ (พี่ชายก๋ง) มาจากอุดร เมื่อก่อนแกขายหมู แกมาเยี่ยมก๋ง เสร็จแล้วแกก็พาเตี่ยไปอยู่อุดรด้วย ไปขับรถโรงสี ร่วมทวี ขับไปขับมาวันนึงขับรถชนเสาไฟฟ้าเด็กรถขาขาดตาย ตัวแกติดคุก ซี้แปะวิ่งเต้นผู้ใหญ่ จนแกติดได้ 3 เดือนก็ปล่อย พอออกมาซี้แปะก็พาไปฝากงานที่หนองคาย เป็นกรรมกรแบกเหล็กร้านโง้วจี่เฮง เงินเดือนๆล่ะ 200 อยู่มาหลายปีจนได้ 300 ก็เอาเงินเดือนล่ะ 300 นี่แหล่ะ จ่ายให้ซี้แปะค่าวิ่งเต้น ทุกเดือนจนหมด ไม่จ่ายไม่ได้เพราะซี้แปะแกมาเก็บตังทุกเดือน ตอนหลังแกกลับมาอยู่ปราจีน ตอนนั้นมีรถ สห ส.ล. ขนส่ง (รุ่น2 โคราชคงจำกันได้) วิ่งสายโคราช-ปราจีน กู๋หลัด (น้องชายย่า) แกชอบขนมันขนเผือกขึ้นมาขายโคราช เตี่ยก็เลยติดรถสห ส.ล. มาขายของที่โคราชด้วย ขายไปขายมาไปขายถึงของแก่น ต่อมากู๋หลัดเปลี่ยนอาชีพมาขายปลาแห้งที่ขอนแก่น เตี่ยกับ อาเจกเล็ก อาเจกเจิ่ง ก็ไปช่วยขาย แม่ดาราก็ยังเคยไปช่วย ตอนหลังเตี่ยกลับมาขายแตงกวา ขายผัก ขายสับปะรด ขายหลายอย่างที่โคราช และขับรถสองแถวด้วย ตอนนั้นฝรั่งค่ายเฟรนชิปเยอะ (ค่ายเฟรนชิป เป็นค่ายทหารอเมริกัน ที่มาตั้งอยู่ในโคราชในสมัยนั้น) แล้วยังเคยขนผัก ขนแตง ขนพลูไปขายที่บุรีรัมย์ด้วย โดนโกงไปเยอะ
“ ถามจริงๆเหอะเตี่ย ไอ้ที่เล่ามาเนี่ยไปได้เมียตอนไหน ” เราถาม
แกยิ้มแหะๆ ทำท่านึก แล้วก็เล่าวนไปวนมาจนปนกันมั่วไปหมด พอจับใจความได้บ้างไม่ได้บ้าง เอาเป็นว่าข้ามตอนนี้ไปเหอะ สรุปเลยล่ะกัน ว่าดังนี้…..
ตอนอยู่โคราชได้เมียหนึ่งคนชื่อแล่ม ซึ้งต่อมาในปี 2507 ก็ได้ให้กำเนิด บุญฤทธิการ รุ่น 2 คนแรก คือ หน่อง นั้นเอง ก็วิ่งรถซื้อของปราจีน-โคราช ก็ได้เมียอีกคนนั้นคือแม่ดารา แล้วพามาขายของที่โคราชด้วยกัน
ในปี 2509 เเม่แล่มก็ให้กำเนิด โหน่ง
ส่วนแม่ดาราก็ให้กำเนิด เหน่ง ปี 2509 ในปีเดียวกัน (ยังไม่มีรูป)
ตอนหลังแม่แล่มก็เลิกกับเตี่ย เตี่ยก็เลยอยู่กับเเม่ดาราจนถึงทุกวันนี้
ปี 2510 แม่ดารา ก็ให้กำเนิด สมบัติ (ยังไม่มีรูป)
ปี 2513 แม่ดารา ให้กำเนิด น้องเล็ก
ปี 2520 แม่ดารา ให้กำเนิด น้องแอน (ยังไม่มีรูป)
แม่ดารา เป็นลูกของ ตาเปล่ง กับ ยายแสงประทีป มีอาชีพรับจ้างทั่วไป แต่ก่อนนี้บ้านอยู่ เกาะขนุน อ.พนมสารคาม แปดริ้ว แม่ดาราเป็นลูกคนที่ 4 จากลูกทั้งหมด 6 คน
1 ป้าลัดดา เสียชีวิตไปแล้ว บ้านอยู่โคราช
2 กู๋วิเชียร อยู่กรุงเทพ สุขุมวิท ซอยอะไรจำไม่ได้แล้ว แต่เราเคยไปหาอยู่
3 กู๋วิชัย เสียชีวิตไปแล้ว
4 แม่ดารา
5 อี้นู เสียชีวิตไปแล้ว
6 อี้นา เลียชีวิตไปแล้ว
ตอนเด็กๆแม่เรียนที่ โรงเรียนเกาะขนุน จนถึงชั้น ป.4 จบมาแล้วก็รับจ้างทั่วไป จนกระทั้ง อี้ประทุม (น้องสาวยายแสง) ส่งมาเรียนคำสอนที่วัดดงแหลมโขด สมัยนั้น พ่ออาทร เป็นเจ้าวัด อยู่มาหลายปีจนกระทั้งพบเจอกับเตี่ยนี่แหละ แกไม่ค่อยเล่าอะไรมากเรื่องเขียนจึงมีน้อย
“ พี่น้องแม่เป็นพุทธหมด แล้วทำไมแม่เป็นคริสต์ ” เราถาม
“ แต่ก่อนนี้ ยายแสง และพี่น้องของยายแสงเป็นคริสต์อยู่แล้ว แต่แถวบ้านสมัยนั้นไม่มีโบสถ์ ต้องเข้าไปที่แปดริ้ว หรือ ปราจีนแทน การเดินทางก็ลำบาก พี่น้องคนอื่นก็เลยไม่เอา มีแต่แม่เนี่ยแหละที่ได้มาเรียนคำสอนที่วัดดงแหลมโขด เพราะน้องของยายแสงอยู่ที่ดงแหลมโขดก็มี ”
“ แล้วที่แม่ไปงานศพ แม่ของคนชื่อโรจน์ที่เป็นครูอยู่โรงเรียนมารีย์ปักธงชัยล่ะ ”
“ นั้นก็น้องของยายแสงเหมือนกันชื่อ ทวีป ” แกยังมีญาติอยู่ที่ บ้านสร้าง กับ บางคล้า ด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น